คุณสามารถใช้แบบฟอร์มตาราง CSV เพื่อเพิ่มสินค้าเป็นจำนวนมากเข้าสู่ระบบ StoreHub ได้ในคราวเดียว (แทนการเพิ่มสินค้าทีละชิ้น)
เราได้เพิ่มการรองรับบาร์โคดหลายแบบสำหรับสินค้าชิ้นเดียวกัน
โปรดสังเกตคุณลักษณะต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้ร่วมกับการนำเข้าสินค้าได้:
- สินค้าประเภท เลือกได้หลายแบบ
- สินค้าแบบที่ตัดสต็อกแบบตัดหลายส่วน (ตัดส่วนประกอบ)
- สินค้าที่ไม่ได้ติดตามสต็อก จะไม่สามารถแยกสินค้าเป็นหลายๆ แบบได้
- สถานะ “ติดตามจำนวนสต็อก” นั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขณะที่นำเข้าสินค้า ดังนั้นแล้วจึงต้องทำการเปลี่ยนแปลงใน BackOffice อีกครั้งภายหลัง (หากจำเป็น)
ก่อนที่จะเริ่มนำสินค้าเข้าระบบ ขอให้ท่านเตรียมข้อมูลต่างๆ ดังต่อไปนี้ให้ครบถ้วน:
ขั้นตอนที่ 1.
เตรียมรายชื่อสินค้า และจำแนกสินค้าต่างๆ ออกเป็น 3 ประเภทดังต่อไปนี้
A. สินค้าทั่วไป
สินค้าที่มีรูปแบบเดียว
B. สินค้าที่มีหลายแบบ
เช่น สินค้าที่มีให้เลือกหลายสี หลายขนาด ฯลฯ โดยแบ่งเป็น สินค้าหลัก และสินค้าย่อย (สี ขนาด ของสินค้าหลัก) ตัวอย่างเช่นรูปด้านล่างนี้
C. สินค้าที่ตัดสต็อกแบบตัดหลายส่วน
เช่น สินค้าที่มีตัดยอดการใช้องค์ประกอบ/ส่วนผสมอื่นๆ ทั้งนี้ ส่วนประกอบ/ส่วนผสมต่างๆ ต้องได้รับการเพิ่มเข้าไปในตัวสินค้าผ่าน BackOffice เองภายหลังจากที่เพิ่มสินค้าด้วย CSV แล้ว
ขั้นตอนที่ 2.
เตรียมชื่อสินค้า และแบบสินค้าต่างๆ เช่นสี ขนาด ฯลฯ
- ราคาของสินค้าที่ยังไม่รวมภาษี (หากท่านอิงราคารวมภาษี 7% แล้วเป็นหลัก ให้นำราคานั้นมาหารด้วย 1.07 เพื่อคำนวณราคาไม่รวมภาษีออกมา โดยไม่ต้องปัดเศษทศนิยมเมื่อนำมาเพิ่มในตาราง ทางเราแนะนำให้ระบุทศนิยมอย่างน้อย 4 หลัก)
วิธีเพิ่มสินค้า
ขั้นตอนที่ 1.
ก่อนอื่นคุณต้องดาวน์โหลดต้นแบบไฟล์ CSV จากหน้า BackOffice [เข้าไปยังหน้า สินค้า > จัดการสินค้า > นำเข้าไฟล์ CSV]
ขั้นตอนที่ 2.
คลิกลิงก์ “download a CSV template”
ขั้นตอนที่ 3. เปิดไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาด้วยโปรแกรมตารางการคำนวณ เช่น Google Sheets หรือ Apple Numbers
เคล็ดลับ: ทางเราแนะนำให้ใช้งาน Google Sheets เพื่อลดข้อผิดพลาดของฟอร์แมตที่อาจเกิดขึ้น
- เพิ่มรายการสินค้าไปยังไฟล์ CSV โดยสามารถดูวิธีการเพิ่มได้จากด้านล่าง
- อัปโหลดไฟล์ CSV ไปยัง BackOffice โดยไปที่ BackOffice > สินค้า > จัดการสินค้า > นำเข้าไฟล์ CSV > Select File > เลือกไฟล์ CSV ที่เตรียมไว้ > Import
- เมื่อทำการอัปโหลดเสร็จสิ้น จะมีสถานะการอัปโหลดแสดงอยู่ด้านล่างของหน้า Import Products ที่เมนู Import Tasks
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: สามารถเพิ่มรายการสินค้าผ่านไฟล์ CSV ได้หรือไม่?
A: สามารถทำได้ หากคุณทำการอัปโหลดไฟล์ CSV ด้วยรหัส SKU เดียวกับรหัส SKU ที่มีอยู่ใน BackOffice ข้อมูลของสินค้านั้นๆ จะถูกแทนที่ถูกข้อมูลสินค้าที่มีรหัส SKU เดียวกันในไฟล์ CSV แต่ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนแปลงจำนวนสต็อกของสินค้าใน BackOffice และไม่ต้องการให้ข้อมูลถูกแทนที่ด้วยไฟล์ CSV คุณสามารถทำการลบคอลัมน์ Quantity ในไฟล์ CSV เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของจำนวนสต็อกใน BackOffice
Q: จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ SKU ถูกเปลี่ยนและ SKU นั้นยังไม่ถูกกำหนดไปยังสินค้าใดๆ ใน BackOffice
A: เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง SKU ในไฟล์ CSV จะทำให้เกิดสินค้าใหม่ ฉะนั้นทำการตรวจสอบว่า SKU นั้นไม่ได้ถูกแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง
การเพิ่มรายการสินค้า
ด้านล่างนี้เป็นวิธีการใส่ข้อมูลในแต่ละคอลัมน์ของไฟล์ CSV:
SKU
Required (จำเป็นต้องมี)
SKU (Stock Keeping Unit) คือ หน่วยที่จำแนกประเภทสินค้าที่เล็กที่สุดในระบบสินค้า คุณสามารถใช้รหัสบาร์โค้ดเป็น SKU ได้ หรือคุณสามารถใส่รหัส SKU โดยการเริ่มนับจาก 10000 ได้เช่นกัน สินค้าทุกๆ รายการจะต้องมี SKU ที่แตกต่างกัน โดยรหัส SKU จะต้องเป็นพยัญชนะ และ/หรือ ตัวเลขเท่านั้น ไม่สามารถใส่สัญลักษณ์ใดๆ ได้
Parent Product SKU
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
คอลัมน์นี้ใช้เมื่อสินค้ามีตัวเลือก (Variant) โดยคุณสามารถใส่ Parent Product SKU ในคอลัมน์นี้เมื่อสินค้านั้นๆ มีหลายตัวเลือก
Product Name
Required (จำเป็นต้องมี)
ชื่อของสินค้าที่จะแสดงบนใบเสร็จ คุณสามารถใส่เป็นพยัญชนะ ตัวเลข หรือสัญลักษณ์ได้ แต่ห้ามใช้ #, $, หรือ &
Category
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
Category คือหมวดหมู่ของสินค้านั้นๆ เช่น หมวดหมู่เสื้อผ้า หมวดหมู่เครื่องประดับ หรือหมวดหมู่บริการ
Price Type
Required (จำเป็นต้องมี)
Fixed คือราคาคงที่ Variable คือราคาไม่แน่นอน โดยทั่วไปแล้วราคาจะเป็นแบบคงที่ แต่หากจำเป็นต้องใส่ราคาสินค้า ณ ตอนขายบนแอปของ StoreHub จะต้องเลือกราคาเป็น ไม่แน่นอน เช่น ค่าขนส่ง
Price
Required (จำเป็นต้องมี)
ราคาขายของสินค้านั้นๆ ที่ยังไม่รวมภาษี ใส่เฉพาะราคาขาย โดยไม่ต้องใส่สัญลักษณ์แสดงสกุลเงิน
Cost
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
ต้นทุนของสินค้านั้นๆ ที่ยังไม่รวมภาษี ใส่เฉพาะราคาต้นทุน โดยไม่ต้องใส่สัญลักษณ์แสดงสกุลเงิน
Product Tags
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
ป้ายกำกับ ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ เพราะไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับชื่อหรือหมวดหมู่ของสินค้า เช่น น้ำอัดลม ซัมเมอร์ ผู้ชาย ผู้หญิง ผ้าคอตตอน โดยสามารถใส่ได้ไม่จำกัดในสินค้านั้นๆ หากมีมากกว่า 1 แท็ก ให้ใช้ (;) แบ่งแยกแต่ละแท็ก รวมถึงทำการติดตามสต็อกด้วยการใส่ 1 ในกรณีที่คุณต้องการติดตามจำนวนสต็อก และต้องการใส่เลขหรือรหัสบาร์โค้ด
Barcode
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
ใส่เลขหรือรหัสบาร์โค้ดของคุณได้ที่คอลัมน์นี้
Variant Name 1
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
ชื่อกลุ่มของแบบสินค้า เช่น ไซส์ สี หรือ รสชาติ โดยทำวิธีเดียวกันกับ Variant options 2 และ 3
Variant Value 1
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
ชื่อแบบของสินค้านั้นๆ เช่น ไซส์ L สีดำ หรือ รสนม โดยทำวิธีเดียวกันกับ Variant options 2 และ 3.
Quantity
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
จำนวนสต็อกของสินค้าที่มีอยู่ปัจจุบัน ในกรณีที่มีมากกว่า 1 สาขา ให้เพิ่มคอลัมน์และเปลี่ยนชื่อคอลัมน์ เป็น ‘ชื่อร้านค้า_Quantity’ ชื่อร้านค้า ต้องเป็นชื่อร้านค้าที่เหมือนกับที่มีอยู่ใน BackOffice เท่านั้น โดยต้องเหมือนกันทุกตัวสะกด ในกรณีที่ไม่ต้องการแก้ไขจำนวนสต็อก สามารถลบคอลัมน์ Quantity ออกได้ เพื่อคงจำนวนสต็อกที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน โดยไม่เปลี่ยนแปลง
Warning Stock Level
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
เมื่อสินค้าของคุณอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ได้ตั้งไว้ จะมีการแจ้งเตือนในส่วนจำนวนสินค้าที่ต้องเติม ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบจำนวนสินค้าที่เหลือและรู้ว่าจะต้องเพิ่มเท่าไหร่ ในกรณีที่มีมากกว่า 1 สาขา ให้เพิ่มคอลัมน์และเปลี่ยนชื่อคอลัมน์ เป็น ‘ชื่อร้านค้า_Warning Stock Level’ ชื่อร้านค้า ต้องเป็นชื่อร้านค้าที่เหมือนกับที่มีอยู่ใน BackOffice เท่านั้น โดยต้องเหมือนกันทุกตัวสะกด ในกรณีที่ไม่ต้องการแก้ไข สามารถลบคอลัมน์ Warning Stock Level ออกได้ เพื่อคงจำนวนเดิมที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน โดยไม่เปลี่ยนแปลง
Ideal Stock Level
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
จำนวนสินค้าในสต็อกที่คุณคิดว่าเหมาะสม เมื่อคุณสร้างใบสั่งซื้อวัตถุดิบ StoreHub จะแนะนำจำนวนสินค้าในการสั่งซื้อแต่ละครั้งเทียบกับจำนวนสต็อกที่ตั้งไว้ในช่องนี้ ในกรณีที่มีมากกว่า 1 สาขา ให้เพิ่มคอลัมน์และเปลี่ยนชื่อคอลัมน์ เป็น ‘ชื่อร้านค้า_Ideal Stock Level’ ชื่อร้านค้า ต้องเป็นชื่อร้านค้าที่เหมือนกับที่มีอยู่ใน BackOffice เท่านั้น โดยต้องเหมือนกันทุกตัวสะกด ในกรณีที่ไม่ต้องการแก้ไข สามารถลบคอลัมน์ Ideal Stock Level ออกได้ เพื่อคงจำนวนเดิมที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน โดยไม่เปลี่ยนแปลง
Supplier
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
ชื่อของผู้จัดจำหน่าย หรือชื่อของซัพพลายเออร์
Tax Name
Optional (มีหรือไม่มีก็ได้)
ชื่อของค่าภาษีที่คุณต้องการใช้ในสินค้า เช่น Tax หรือ VAT โดยชื่อที่ใส่ในคอลัมน์นี้จะต้องเป็นชื่อเดียวกันกับใน BackOffice รวมถึงทำการเพิ่มทำการเพิ่มชื่อของค่าภาษีที่ ตั้งค่า > ภาษี ก่อนที่จะทำการนำเข้าไฟล์ CSV
ตัวอย่าง - สินค้าที่ไม่มีตัวเลือก
ตัวอย่าง - สินค้าที่มีตัวเลือก
สินค้าตัวเลือกจะต้องมี SKU และชื่อสินค้าที่แตกต่างจากสินค้าหลัก เมื่อมีการเพิ่มตัวเลือกของสินค้า
ข้อควรระวัง:
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อคอลัมน์ไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงจากไฟล์ต้นฉบับ มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำเข้าไฟล์ CSV ได้
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างในแต่ละบรรทัด เพราะจะทำให้การนำเข้าไฟล์ไม่สำเร็จ
- ทำการดาวน์โหลดไฟล์ต้นฉบับ จาก BackOffice > สินค้า > จัดการสินค้า > นำเข้าไฟล์ CSV > download a CSV template เท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิด Error หลังการนำเข้าไฟล์
ข้อคิดเห็น
0 ข้อคิดเห็น
โปรด ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อแสดงข้อคิดเห็น